Health

  • โรคหอบหืดอันตรายแต่ป้องกันได้
    โรคหอบหืดอันตรายแต่ป้องกันได้

    โรคภูมิแพ้ไม่ใช่โรคหอบหืด แต่โรคภูมิแพ้เป็นสาเหตุที่สำคัญทำให้เกิดโรคหอบหืดได้ โรคหอบหืด เกิดจากการที่หลอดลมตอบสนองต่อสิ่งที่มากระตุ้นมากกว่าปกติ ทำให้หลอดลมเกร็ง และบวม คนที่มีอาการรุนแรงมากอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ โรคหอบหืดเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด แต่สามารถควบคุมไม่ให้อาการกำเริบได้

    สาเหตุหลัก ๆ ของการเกิดโรคหอบหืดมาจากอะไรมาดูกัน

    หอบหืด

    1.โรคภูมิแพ้ เช่น การสัมผัสกับละอองเกสรดอกไม้ เกสรหญ้า ไรฝุ่น ขนสัตว์ มลพิษในอากาศ

    2.กรรมพันธุ์

    3.โรคติดเชื้อบางชนิด เช่น โรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ ไซนัสอักเสบ

    4.ความเครียด

    5.สูบบุหรี่ ควันบุหรี่

    อาการสำคัญของโรคหอบหืด

    1.มีอาการไอ มีเสมหะ

    2.แน่นหน้าอก

    3.หายใจมีเสียงหวีด และเหนื่อยหอบ

    โดยถ้าโรคหอบหืดที่มีสาเหตุมาจากโรคภูมิแพ้ จะมีอาการ จาม คัดจมูก น้ำมูกใส คันจมูก/คันตา ร่วมด้วย จะเห็นว่า ภูมิแพ้เป็นสาเหตุหลักของการเกิดหอบหืด ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เพื่อลดอาการกำเริบของโรคได้

    การป้องกันเพื่อไม่ให้อาการหอบหืดกำเริบ

    1.หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เช่น การสัมผัสกับละอองเกสรดอกไม้ เกสรหญ้า ไรฝุ่น ขนสัตว์ มลพิษในอากาศ สัตว์เลี้ยงมีขน

    2.หลีกเลี่ยง ควันบุหรี่ ควันรถยนต์

    3.ออกกำลังกายให้เหมาะสม

    4.เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

    โดยยาที่ใช้รักษาโรคหอบหืดจะมี 2 กลุ่มหลัก ๆ

    1.กลุ่มยาพ่นควบคุมอาการ (Controller) ต้องใช้เป็นประจำทุกวัน เพื่อควบคุมอาการ จะหยุดใช้
    ก็ต่อเมื่อแพทย์สั่ง เช่น ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดสูดพ่น (inhaled corticosteroids)

    2.กลุ่มยาบรรเทาอาการ (Reliever) ใช้เฉพาะเมื่อมีอาการเท่านั้น เช่น ยาขยายหลอดลม

    การรักษาโรคหอบหืดจะแตกต่างกันในคนไข้แต่ละคน ดังนั้น ผู้ที่เป็นโรคหอบหืดต้องได้รับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ห้ามซื้อยามากินเอง และควรไปพบแพทย์ตามที่สั่งเพื่อประเมินผลการรักษา ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยโรคหอบหืดสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

    ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ sinemagija.com

     

Economy

  • แห่ก่อหนี้ผูกพันข้ามปี 3.6 แสนล้าน
    แห่ก่อหนี้ผูกพันข้ามปี 3.6 แสนล้าน

    แห่ก่อหนี้ผูกพันข้ามปี 3.6 แสนล้าน สำนักนายกกันงบซื้อเครื่องบินรับส่งบุคคลสำคัญ

    ครม.อนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปี 360,000 ล้านบาท ให้กับโครงการขนาดใหญ่ที่มีวงเงินเกิน 1,000 ล้านบาทให้ 14 กระทรวง 25 หน่วยรับงบประมาณ อาทิ สำนัก นายกฯ เสนอขอวงเงิน 8,784 ล้านบาทจัดหาเครื่องบิน รับ–ส่ง บุคคลสำคัญทดแทนลำเดิม มหาดไทย ชงขอ 7 โครงการ 15,486 ล้านบาท

    นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณโครงการขนาดใหญ่ที่มีวงเงินเกินกว่า 1,000 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2567 รวมทั้งสิ้น 14 กระทรวง 25 หน่วยงานรับงบประมาณ วงเงินรวม 360,000 ล้านบาทเศษ

    โดยการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีจะอยู่บนหลักการที่ไม่เกินสัดส่วน 20% ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ที่กำหนดไว้ 3.35 ล้านล้านบาท โดยหน่วยงานที่ต้องการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไปต้องเสนอให้ ครม.อนุมัติก่อนที่จะมีการยื่นคำขอตั้งงบประมาณต่อผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และเนื่องจากสัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์สุดท้ายที่หน่วยงานต่างๆจะเสนอตั้งวงเงินมาได้

    ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า 14 กระทรวง 25 หน่วยงานรับงบประมาณ ประกอบด้วย สำนักนายก รัฐมนตรี เสนอขออนุมัติตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 สำหรับรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ วงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้าน บาทขึ้นไป จัดหาเครื่องบิน รับ-ส่ง บุคคลสำคัญ ทดแทนเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 19 จำนวน 1 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ การฝึกอบรม และอุปกรณ์อื่นๆที่จำเป็น 8,784 ล้านบาท แบ่งเป็นปี 2567 วงเงิน 1,753 ล้านบาท ปี 2568 วงเงิน 2,191 ล้านบาท ปี 2569 วงเงิน 2,201 ล้านบาท และปี 2570 วงเงิน 2,637 ล้านบาท

    ขณะที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ 7 โครงการ วงเงินรวม 15,486 ล้านบาท ประกอบด้วย

    สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อโครงการก่อสร้างศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย ระยะที่ 2 วงเงิน 3,344 ล้านบาท การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วน ภูมิภาค 4 โครงการ 7,587 ล้านบาท กรุงเทพมหานคร เสนอ 2 โครงการ วงเงิน 4,555 ล้านบาท โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน กทม. และศูนย์สำรวจและเฝ้าระวังชายฝั่ง (โครงการป้องกันกัดเซาะชายฝั่งบางขุนเทียน) 1,723 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสียและระบบบำบัดน้ำเสียมีนบุรี ระยะที่ 2 วงเงิน 2,832 ล้านบาท

    กระทรวงการคลังขออนุมัติให้กรมธนารักษ์ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ พื้นที่โซน C เพื่อเป็นค่าเช่าอาคารให้กับบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) พื้นที่ทั้งหมด 510,000 ตารางเมตร เป็นเวลา 30 ปี ในอัตราค่าเช่า 390 บาท/ตารางเมตร/เดือน หรือปีละ 2,386 ล้านบาท และปรับปรุงอัตราค่าเช่าเพิ่มขึ้น 7% ต่อปีของค่าเช่าเดิมทุก 3 ปี รวม 30 ปี เป็นเงินทั้งสิ้น 98,931 ล้านบาท

    กระทรวงดิจิทัลฯโดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สดช.) ดำเนินโครงการพัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขของประเทศไทย 1,514 ล้านบาท

    โดย ขอก่อหนี้ผูกพัน 3 ปี (2566-2568) กระทรวงอุดม ศึกษาฯ เสนอขออนุมัติงบประมาณโครงการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ภูเก็ต 3,143 ล้านบาท และโครงการอาคารรักษาพยาบาล และสถานีศิริราช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 1,636 ล้านบาทแห่ก่อหนี้ผูกพันข้ามปี 3.6 แสนล้าน สำนักนายกกันงบซื้อเครื่องบินรับส่งบุคคลสำคัญ

    ส่วนองค์กรอิสระและองค์กรภายใต้รัฐธรรมนูญ และในปีงบประมาณ 2567

    ได้แก่ สถาบันพระปกเกล้า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา สำนักงานศาลปกครอง สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และสำนักงานอัยการสูงสุด วงเงินรวม 66,692.55 ล้านบาท

    ด้านศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เสนอโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 3 ลำระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (2567-2571) วงเงิน 4,500 ล้านบาท กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ขอผูกพันงบประมาณสำหรับโครงการศูนย์การแพทย์เพื่อตอบโต้โรคอุบัติใหม่แห่งชาติบำราศนราดูร (โครงการ NCEID) 2,229 ล้านบาท

    กระทรวงเกษตรฯเสนอขออนุมัติให้กรม ชลประทาน 5 โครงการ วงเงิน 2,766 ล้านบาท ได้แก่ เขื่อนทดน้ำผาจุก จ.อุตรดิตถ์ อ่างเก็บน้ำน้ำกิ จ.น่าน ปรับปรุงคลองบางขนาก จ.ฉะเชิงเทรา

    ปรับปรุงคลองระพีพัฒน์แยกใต้ จ.ปทุมธานี และ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองระพีพัฒน์ จ.สระบุรี กระทรวงยุติธรรมเสนอขออนุมัติก่อสร้างเรือนจำ 3 โครงการ ใน จ.อุตรดิตถ์ ชัยนาท ยโสธร รวม 5,004 ล้านบาท โดยผูกพันข้ามปีตั้งแต่ปี 2567-2569.

    ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th

    สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ : sinemagija.com