พาสุนัขเที่ยว ช่วงวันหยุดหรือวันหยุดยาว สำหรับคนเลี้ยงสุนัขที่อยากพาน้องไปร่วมทริปด้วย สามารถศึกษาข้อมูลและต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ ทั้งก่อนเดินทาง ระหว่างการเกิดนทาง และการอยู่ในสถานที่พักผ่อน เพื่อให้ทั้งเจ้าของและสุนัขเที่ยวได้อย่างสนุก ปลอดภัย และจะได้พาสุนัขเที่ยวได้บ่อยๆ

พาสุนัขเที่ยว ที่ไหนดี

พาสุนัขเที่ยว ที่ไหนดี ตอนนี้สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่เริ่มเปิดให้ไปเที่ยวและเข้าพักได้แล้ว เชื่อว่าหลังจากที่ต้องอยู่บ้านติดต่อกันเกือบทั้งปี หลายคนก็คงจะมีแพลนที่จะพาพาสุนัขเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศ และตัวเลือกที่ให้ความสนใจก็คือการไปแคมป์ปิ้ง เพราะว่ามีพื้นที่ให้สุนัขได้วิ่งเล่นแล้วก็ใกล้ชิดธรรมชาติด้วย แต่ ถึงแม้ว่าจะเป็นพื้นที่ที่เปิดรับสุนัขแค่ไหนแต่การพาสุนัขไปเที่ยว – ไปพัก ก็ควรจะมีข้อควรปฏิบัติที่ต้องทำอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้เข้าพักคนอื่น เพราะ “สุนัขของเราไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน”

เทรนด์การท่องเที่ยวแบบแคมป์ปิ้งกำลังเป็นที่นิยม การท่องเที่ยวสไตล์นี้นอกจากจะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติแล้ว ยังเป็นการเที่ยวอีกรูปแบบที่เปิดโอกาสให้คนมีสัตว์เลี้ยงได้พาสัตว์เลี้ยงไปเที่ยวพักผ่อน แต่การที่จะพาสุนัขเที่ยวแคมป์ปิ้งนั้น การวางแผนอย่างรัดกุมเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะสิ่งที่ต้องคำนึงถึงที่สุดก็คือ สุนัขต้องไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น

การเตรียมตัวเดินทาง

  • ตรวจสุขภาพก่อนเดินทาง

ก่อนพาสุนัขเที่ยวควรพาสุนัขไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์ เพราะจะช่วยให้ทราบว่าสุนัขมีความพร้อม หรือสุขภาพแข็งแรงพอที่จะเดินทางได้หรือไม่ หากสุนัขป่วย ควรให้พักผ่อน หรือฝากเลี้ยงไว้ที่โรงพยาบาลสัตว์ดีกว่า เพราะนอกจากสุนัขจะทรมานจากการเดินทางแล้ว บางตัวอาจมีอาการเมารถร่วมด้วย อาจทำให้อาการป่วยทรุดหนักกว่าเดิม

ทางที่ดีควรขอคำปรึกษาจากสัตวแพทย์ หรือขอยาแก้อาการเมารถ เพราะยาประเภทนี้จะทำให้สุนัขง่วงซึม ลดความกลัว หรืออาการตื่นเต้น ควรให้ยาก่อนขึ้นรถ 30 นาที สำหรับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น คือ ปากแห้ง และปัสสาวะคั่ง สำหรับสุนัขที่กำลังตั้งท้องไม่ควรให้กิน ส่วนอาหาร ไม่ควรให้กินจนอิ่มก่อนออกเดินทาง แต่เว้นระยะให้กินก่อนขึ้นรถไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง เพราะถ้าสุนัขเมารถจะอาเจียนออกมาหมด

  • จัดเตรียมพื้นที่ในรถยนต์

ก่อนพาสุนัขเที่ยวต้องเตรียมพื้นที่ในรถ สำหรับสุนัขควรอยู่ที่เบาะหลัง คือ ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดควรสวมปลอกคอ และผูกสายจูงไว้กับที่จับด้านข้างประตู เพื่อให้สุนัขติดอยู่กับที่ หรือคาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับสุนัข เพราะสุนัขชอบวิ่งเล่นปีนป่ายไปมา ก็ซนตามประสาถ้าตัวเล็กหน่อยก็ให้อยู่ในกรง เพื่อป้องกันไม่ให้มารบกวนบริเวณด้านหน้าคนขับ เพราะอาจทำให้เสียสมาธิ และเกิดอุบัติเหตุได้ลองหาผ้ามาคลุมเบาะ ป้องกันไม่ให้สุนัขลื่น กรณีรถเบรกกะทันหัน และป้องกันขนร่วงของสุนัขที่ทำให้รถสกปรกได้ จะช่วยให้ผ่อนแรงการทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นด้วย

  • เตรียมปลอกคอและสายจูง

ก่อนพาสุนัขเที่ยวสิ่งที่ห้ามลิมคือปลอกคอและสายจูง เป็นอุปกรณ์สำคัญที่คนเลี้ยงสุนัข เมื่อพาสุนัขออกนอกบ้าน หรือไปท่องเที่ยว ผู้เลี้ยงควรใส่ชื่อ เบอร์โทรศัพท์เอาไว้ในปลอกคอของสุนัข เมื่อเกิดเหตุพลัดหลงทางกัน ผู้พบเห็นจะได้ติดต่อเจ้าของสะดวกมากขึ้น ทุกครั้งที่แวะพักข้างทางปล่อยให้สุนัขได้ออกมาเดินเล่นบ้าง อย่าลืมใส่สายจูงป้องกันสุนัขวิ่งหนี เพื่อความปลอดภัยด้วย

  • เสื้อผ้า

ถ้ามีแพลนว่าจะพาสุนัขเที่ยวในที่ที่มีอากาศหนาวเย็น อย่าลืมหยิบเสื้อผ้าติดมือไปให้ด้วย จะสังเกตเห็นได้ง่ายถ้าสุนัขตัวสั่น หูเย็น อุ้งเท้าเย็น  ควรเลือกเสื้อผ้าที่มีความหนากว่าปกติ และมีคุณสมบัติทนความหนาวเย็นได้ หรือเสื้อที่สามารถคลุมตั้งแต่หางจนถึงลำคอ เพื่อสร้างความอบอุ่นให้สุนัข

  • น้ำดื่ม อาหาร

ผู้เลี้ยงควรเตรียมน้ำ และอาหารไว้ให้พร้อมก่อนพาสุนัขเที่ยว โดยคำนวณปริมาณอาหารให้เพียงพอสำหรับการเดินทางในแต่ละครั้ง แนะนำให้เลือกชามใส่น้ำ และอาหารแบบพกพา สามารถหยิบใช้งานได้สะดวก ให้กินระหว่างเดินทาง หากพาสุนัขเที่ยวในที่ที่มีอากาศเย็น ควรให้จิบน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำจากอากาศที่แห้งนั่นเอง

  • ถุงพลาสติกสำหรับเก็บขยะ และกระดาษทิชชู่

ต้องพกติดตัวไว้เสมอเวลาพาสุนัขเที่ยวในที่สาธารณะ คือ ถุงพลาสติก ถุงกระดาษ และกระดาษทิชชู่ เพื่อใช้ในการเก็บกวาดการขับถ่ายของสุนัข ควรรับผิดชอบต่อสังคม ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น ช่วยรักษาบรรยากาศที่ดีในการท่องเที่ยว และยังเป็นอีกวิธีที่ช่วยป้องกันโรคติดต่อต่างๆ ทางอุจจาระ ไม่ให้ไปเผยแพร่สุนัขตัวอื่นด้วย

พาสุนัขเที่ยว

ข้อควรระวังในพาสุนัขเที่ยว

  • อย่าให้สุนัขยื่นหน้าออกไปนอกรถ เพราะฝุ่นละอองและแมลงอาจเข้าตาได้
  • ใส่ใจเรื่องของอุณหภูมิ หากสุนัขถูกแสงแดดส่อง ควรหาม่านสุญญากาศมาติดกระจกเพื่อกันแดด หรือปรับแอร์ช่องแอร์ให้โดนสุนัข เพื่อช่วยระบายความร้อน โดยเฉพาะสุนัขขนสีเข้มจะดูดเก็บความร้อนได้ดีกว่าขนสีอ่อน
  • อย่าปล่อยสุนัขไว้ในรถตามลำพัง เพราะอุณหภูมิในรถจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อจอดรถกลางแดด ถ้าไปในสถานที่ที่ห้ามนำสุนัขเข้า ก็ควรใช้บริการสถานที่รับฝากเลี้ยง หรือมีสมาชิกในทริปเสียสละอยู่กับสุนัข
  • ควรนำสมุดจดการฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าติดตัวไปด้วยเสมอ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างทาง นำหลักฐานนี้ให้สัตวแพทย์ดู ว่าสุนัขได้รับวัคซีนครั้งสุดท้ายเมื่อไร เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการรักษาต่อไป หรือในอีกกรณีหนึ่ง ถ้าสุนัขเผลอไปกัดใครเข้า เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่า สุนัขได้รับวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ปลอดภัยจากโรคแน่นอน
  • ติดชื่อเจ้าของ และเบอร์โทรศัพท์ไว้ที่ปลอกคอ เผื่อเกิดกรณีสุนัขสูญหาย หรือหลงทาง ผู้พบเห็นสามารถติดต่อนำส่งคืนได้

การพาสุนัขออกไปเที่ยวนอกบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เพียงแต่ต้องเตรียมความพร้อม และทำทุกอย่างให้ถูกวิธี ทั้งหมดนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของผู้เลี้ยง และสุนัขด้วย

เทคนิคฝึกนั่งรถก่อนพาสุนัขเที่ยว

ใครที่เลี้ยงสุนัขเวลาต้องเดินทางไปไหนมาไหนทีคงคิดหนัก เพราะเชื่อว่าไม่มีใครอยากทิ้งสุนัขให้อยู่เหงาๆ ที่บ้านตามลำพัง ถ้าไปเที่ยวก็คงไม่สนุกเพราะห่วงเจ้าตัวแสบว่าจะเป็นยังไงบ้าง เพราะบางทีการพาสุนัขไปไหนมาไหนด้วยกันก็ทำให้รู้สึกอุ่นใจและมีความสุขมากกว่าเพราะมีเพื่อนรู้ใจอยู่ด้วย แต่ปัญหาคือสุนัขบางตัวไม่คุ้นเคยกับการนั่งรถ ยิ่งถ้าสุนัขป่วยแล้วต้องพาน้องนั่งรถไปหาสัตวแพทย์นี่ปัญหาใหญ่เพราะน้องบางตัวก็กลัวรถจนไม่ยอมนั่ง กลายเป็นปัญหาหนักใจของคนเลี้ยงสุนัขที่ไม่รู้จะแก้อย่างไร

ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่าสุนัขที่ไม่เคยขึ้นรถมาก่อน อาจเกิดอาการกลัวได้เวลาที่รถเคลื่อนที่หรือได้ยินเสียงดังจากเครื่องยนต์ สุนัขอาจจะเกิดอาการกระวนกระวาย ไม่อยู่นิ่ง วิ่งวนไปมาภายในตัวรถจนวุ่นวาย หรือบางตัวอาการหนักอาจจะเห่าไม่หยุด เมารถ อาเจียน หรือฉี่ราดเปื้อนไปทั้งรถ ทีนี้ล่ะวุ่นวายทั้งเจ้าของทั้งสุนัข ดังนั้นการฝึกสุนัขให้นั่งรถจึงจำเป็นมาก เพราะถ้าไม่ทำให้เขาคุ้นเคยก็จะลำบากมากเวลาต้องพาน้องไปพบสัตวแพทย์หรือเดินทางไปที่อื่น เพราะฉะนั้นมาฝึกให้สุนัขคุ้นเคยกับการเดินทางจะได้พาสุนัขเที่ยวด้วยได้ทุกที่

เทคนิคให้คุ้นเคยการนั่งรอก่อนพาสุนัขเที่ยว

  • ทำให้สุนัขคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมในรถ

ก่อนพาสุนัขเที่ยวให้ลองพาสุนัขนั่งในรถโดยยังไม่ต้องขยับรถ แล้วเริ่มฝึกให้คุ้นเคยโดยการพูดคุยกับเขาตอนอยู่บนรถ อาจจะหาผ้า ของเล่น หรือตุ๊กตาตัวโปรดของน้องมาไว้ในรถด้วยเพื่อให้น้องผ่อนคลาย มีความสุข และมีประสบการณ์ที่ดีเวลาได้ขึ้นรถ ทำแบบนี้บ่อยๆ น้องก็จะเริ่มคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมภายในรถมากขึ้น

  • ให้สุนัขนั่งในรถขณะติดเครื่อง

หลังจากทำให้เขาคุ้นเคยตอนอยู่บนรถแบบไม่ขยับแล้ว ต่อมาคือฝึกให้สุนัขนั่งบนรถแบบติดเครื่องยนต์ เพื่อให้น้องทำความคุ้นเคยกับเสียงของเครื่องยนต์จนไม่ตกใจกลัว แต่หากสุนัขยังคงแสดงอาการกลัวหรือกังวลอยู่ก็ควรให้เวลาน้องได้ทำความคุ้นเคยและทำให้น้องผ่อนคลายที่สุด

  • ทำให้สุนัขคุ้นเคยกับรถที่ขยับ

เมื่อสุนัขคุ้นเคยกับการติดเครื่องยนต์โดยไม่กลัวแล้วหรือเริ่มชินมากขึ้น ให้เจ้าของลองถอยรถไปด้านหลังและขับมาด้านหน้าสลับกันแบบนี้อย่างช้าๆ และดูว่าน้องยังนั่งนิ่งอยู่หรือเปล่า หากน้องยังอยู่นิ่งก็ให้พูดชมบอกว่าเขาเก่งมาก! หรือลูบหัวเป็นการให้รางวัล

  • เพิ่มระยะทางในการขับรถ

หลังจากสุนัขเริ่มชินกับการขยับของรถ ให้ลองเพิ่มระยะทางในการเดินทางแล้วดูว่าสุนัขแสดงอาการอะไรออกมาไหม หากดูแล้วน้องปกติ สงบ และไม่แสดงอาการใดๆ เมื่ออยู่ในรถ ก็มั่นใจได้ว่าสุนัขเริ่มคุ้นเคยกับการนั่งรถแล้ว พร้อมออกเดินทางพาสุนัขเที่ยวได้เลย

ทั้งนี้ก็อาจจะมีสุนัขบางตัวที่แม้จะทำทุกทางแล้วก็ยังคงกลัวการนั่งรถ บางตัวตื่นเต้น กระวนกระวาย เครียด อาเจียน และเห่าไม่หยุด หากน้องกลัวมากๆ ก็อาจจะกัดคนที่อยู่ใกล้ๆ ได้ ซึ่งอาจต้องปรึกษาสัตวแพทย์หากเกิดอาการเช่นนี้

พาสุนัขเที่ยว

ข้อควรระวังก่อนพาสุนัขเที่ยวขึ้นรถ

  • ตรวจสุขภาพสุนัขก่อนออกเดินทาง เพื่อให้แน่ใจว่าน้องสามารถนั่งรถได้ ไม่เป็นอันตราย
  • ทำให้สุนัขผ่อนคลายก่อนขึ้นรถ อาจจะพาสุนัขออกไปเดินเล่นก่อนเดินทาง 10-15 นาที
  • ก่อนออกเดินทาง 2-3 ชั่วโมง ไม่ควรให้อาหารสุนัขกิน เพราะถ้าน้องเมารถอาจทำให้อาเจียนได้
  • เตรียมของเล่นหรือตุ๊กตาที่สุนัขคุ้นเคยติดไปด้วยขณะเดินทาง น้องจะได้อุ่นใจขึ้น
  • ควรให้สุนัขนั่งเบาะหลังหรือมีคนคอยดูแลและคอยจับสุนัขตลอดการนั่งรถเพื่อความปลอดภัย

เคล็ดลับพาสุนัขเที่ยว

  • ถ้าสุนัขมีผ้าห่มหรือผ้าเช็ดตัวผืนโปรด ให้นำติดตัวไปด้วยเพื่อให้สบายใจระหว่างการเดินทาง
  • พยายามให้ลูกสุนัข (ไม่ใช่ตุ๊กตา) อยู่ในสภาพ “ท้องว่าง” ด้วยการไม่ให้กินอะไรเป็นเวลา 2-4 ชั่วโมงก่อนพาขึ้นรถ การนั่งรถหลายครั้งโดยไม่มีอาการคลื่นไส้จะช่วยป้องกันไม่ให้ลูกสุนัขมีอาการเมารถได้มากทีเดียว
  • ถ้าต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่า 24 ชั่วโมง ลองหาโรงแรมที่ให้สัตว์เลี้ยงเข้าพักด้วยได้ เราและสุนัขของเราจะได้เข้าพักด้วยกันได้
  • ตอนเดินเล่นต้องนำถุงพลาสติกไปด้วยเพื่อเก็บมูลของสุนัข
  • จงอดทน มีเมตตาและรักสุนัข เพราะการเดินทางนั้นเป็นอะไรที่เคร่งเครียดสำหรับสุนัข
  • อย่าปล่อยให้สุนัขโผล่หัวออกนอกหน้าต่าง เพราะเศษผงอาจปลิวเข้าตาได้ หรือถ้าเกิดอุบัติเหตุ หรือเราหยุดรถกะทันหัน สุนัขก็อาจกระเด็นออกนอกหน้าต่างไป
  • พยายามให้สุนัขขับถ่ายก่อนเดินทาง จะช่วยลดโอกาสที่สุนัขจะขับถ่ายในรถของเรา และเราจะได้ไม่ต้องหาที่ให้มันขับถ่ายระหว่างเดินทางบ่อยนัก

 

เมื่อต้องพาสุนัขเที่ยว ควรใช้เวลาและเตรียมตัวให้สุนัขคุ้นเคยกับการนั่งบนรถ เมื่อพานั่งรถบ่อยๆ เขาจะเริ่มชินและสงบมากขึ้นจนชอบการนั่งรถไปเลย เพราะฉะนั้นหากสามารถฝึกน้องได้น้องก็จะเดินทางไปได้ทุกที่ ทีนี้การเดินทางก็จะมีความสุขขึ้นอีกเยอะเพราะมีเจ้าตัวแสบไปด้วย และอย่าลืมดูแลเรื่องความปลอดภัยของน้องด้วย